วัฒนธรรมอีสานเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และแตกต่าง ซึ่งหมายถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยหรือที่เรียกว่าอีสาน วัฒนธรรมที่ได้รับการหล่อหลอมจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับอิทธิพล มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม อาหารเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมอีสาน ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อน และการใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นฉุน เช่น ตะไคร้ ข่า มะกรูด อาหารอีสานยอดนิยม ได้แก่ ส้มตำ ส้มตำ ลาบ ก้อยเนื้อ ปรุงรสด้วยมะนาว ข้าวคั่วและพริก และมีมากมายหลากหลายเมนูที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน อย่างเช่น แหนมเนือง รสเด็ด อาหารที่ได้รับอิทธิพล มาจากเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
“แหนมเนืองอาหารที่มีส่วนผสมจากหลายวัฒนธรรม”
เชื่อกันว่าอาหารจานนี้ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารเวียดนาม เนื่องจากส่วนผสมและรสชาติคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป อาหารชนิดนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารไทยไปแล้ว โดยมีรูปแบบและวิธีการปรุงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จึงอยากจะมานำเสนอเมนู แหนมเนือง รสเด็ด อาหารที่ได้รับอิทธิพล มาจากเพื่อนบ้าน สูตรเด็ดพร้อมวิธีทำอย่างละเอียดทุกเม็ด รับประกันความแซบแน่นอน เดี๋ยวเราไปเตรียมเครื่องปรุงกันก่อนเลย
นี่คือส่วนผสมที่เราจะต้องเตรียมในการทำ แหนมเนือง
-
หมูบดไม่ติดมัน 300 กรัม
-
กระเทียม 10 กลีบ
-
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
-
ต้นหอม 1-3 ต้น
-
ไม้เสียบสำหรับย่าง (หรือกระทะย่าง)
-
แป้งมัน 2 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
สำหรับน้ำจิ้ม
-
มันฝรั่ง 200 กรัม หั่นเป็นชิ้น
-
หัวหอมปอกเปลือกสับละเอียด 200 กรัม
-
ขิงแก่หั่นเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
-
ข่าหั่นเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
-
น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วย (285 กรัม)
-
เต้าเจี้ยว 1 ถ้วยตวง
-
น้ำมะขามเปียก 4 ถ้วยตวง
-
น้ำ 6 ถ้วย
-
น้ำตาลมะพร้าว 200 g
-
ถั่วลิสงป่น 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำแหนมเนือง
-
ปอกกระเทียม หั่นหัวหอมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ครก โขลกรวมกันให้ละเอียด
-
โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ใส่หอมกระเทียมในขั้นตอนแรกและหมูบดลงในครกและตำผสมให้เข้ากัน โขลกต่อไปจนหมูบดเข้ากันดีและหมูบดเริ่มเหนียวขึ้น
-
ตักหมูใสในหม้อหรือกะละมังผสม ปรุงรสด้วย ผงนัว เกลือ น้ำปลาและน้ำตาลลงไป นวดส่วนผสมของหมูให้เข้ากันดี
-
นำหมูบดที่ผสมกันเรียบร้อยแล้ว มาปั้นเป็นก้อนเรียงกันไว้ หรือเสียบไม้ลูกชิ้นแล้วปั้นเป็นแท่งยาวก็ได้เช่นกัน
-
ผสมน้ำมันพืชกับซอสบาร์บีคิวผสมกัน นำหมูที่ปั้นเรียบร้อยแล้วไปย่างใช้แปรงทาซอสบาร์บีคิวที่ผสมน้ำมันพืชไว้แล้ว ให้หมูฉ่ำไม่แห้งจนเกินไปและยังรสชาติบาร์บีคิวด้วย
-
ย่างไปจนหมูสุก บนเตาถ่าน อบ หรือย่างบนกระทะก็ได้แล้วแต่สะดวก ( แต่ถ้าย่างเตาถ่านจะได้ความหอมมากกว่าการย่างแบบอื่นๆ) เมื่อสุกแล้ว นำไม้เสียบลูกชิ้นออกหั่นพอดีคำ
-
ขั้นตอนต่อมาคือการเตรียมผักเคียงที่ทานกับเเหนมเนียง กล้วยดิบ มะเฟือง พริกสด กระเทียม ขิงอ่อน ทั้งหมดนี้ล้างแล้วหั่นเต๋าเป็นผักที่ทานขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูแหนมเนือง
ส่วนของน้ำจิ้ม
-
ตั้งกระทะคั่วข่าและขิงจนหอมพักไว้ก่อน จากนั้นตั้งหม้อต้มใส่ข่าและขิงคั่วลงไป ตามด้วยหอมใหญ่ เต้าเจี้ยว และน้ำเล็กน้อยตามด้วยมันฝรั่ง ต้มจนสุก สังเกตได้จากการใช้ช้อนซ่อมจิ้มดู ถ้านิ่มแสดงสุกเต็มที่พร้อมใช้แล้ว
-
ใช้เครื่องปั่น ตักเอาข่าคั่วและขิงกับมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วใส่น้ำซุปที่ต้มไปด้วยนิหน่อย ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
-
ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำจิ้มที่ปั่นไว้ น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลทรายละลาย ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปคนให้ละลายดี ต้มส่วนผสมจนซอสข้น เสร็จแล้วปิดไฟใส่ถั่วลิสงป่นลงไปผสมให้เข้ากัน พร้อมแล้วสำหรับน้ำจิ้มแหนมเนือง
เสร็จแล้วเราก็มาจัดเสิร์ฟกันเลย เท่านี้คุณก็มีแหนมเนืองและน้ำจิ้มรสเด็ดที่รับรองว่าต้องติดใจ แหนมเนืองมักเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือทานเป็นของว่าง แต่ก็สามารถรับประทานเป็นอาหารจานหลักได้เช่นกัน และยังสามารถเสิร์ฟกับผักต่างๆ ในบ้านเราได้ มักเสิร์ฟพร้อมกับ ผักกาด สะระแหน่ และสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งใช้ห่อแหนมเนืองและสร้างรสสัมผัสกรุ๊บกรอบ กลมกล่อมเข้ากันอย่างลงตัว สูตรนี้ไม่เพียงแค่ทำตามได้ง่ายเท่านั้น ลองทำสูตรนี้กันดูนะครับรับรองว่าจะสามารถกระตุ้นต่อมรับรสของคุณได้อย่างแน่นอน