แหล่งวิตามินที่สามารถหาได้ตามธรรมชาติในดินแดนที่ราบสูง มีทั่วๆไปทั้งบนบก ในน้ำ ซึ่งแต่ละชนิดล้วนแล้วแต่อยู่คู่กับชาวอีสานมาอย่างช้านาน สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและยังคงมีมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ละชนิดก็จะมีเอกลักษณ์มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว ทำให้อาหารอีสานนั้นมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าบางชนิดเริ่มหายากหรือเริ่มได้ความนิยมน้อยลงไปทุกวันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าผักสีเขียวทุกชนิดนั้นก็มีประโยชน์และยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จึงนำสาระดีๆเกี่ยวกับ ผักพื้นบ้าน อีสาน ที่อยู่คู่กับคนอีสานมาอย่างช้านานมาฝากกัน
“ผักพื้นบ้าน อีสาน ผักพื้นถิ่นจากดินแดนที่ราบสูง”
ผักขะแยง

ผักพื้นบ้าน อีสาน ลักษณะโดยทั่วไปของผักแขยงจะเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มักเจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มน้ำ และผักขะแยงเป็นผักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกลิ่นหอมฉุนใช้ปรุงรสอาหารโดยเฉพาะแก่งอ่อม แกงหน่อไม้ หมกหน่อไม้ แกงเห็ด หรือนำไปเป็นเครื่องปรุงรสและแต่งกลิ่นช่วยดับกลิ่นคาวสำหรับต้มส้ม มีคุณค่าทางยาสูง คั้นน้ำจากต้นแก้ไข้ ทั้งต้นเป็นยาขับน้ำนม ขับลมและเป็นยาระบาย มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด สามารถนำมาแปรรูปเป็นผักขะแยงแห้งไว้ใช้นอกฤดูกาลได้ด้วย ส่วนประโยชน์ในด้านอื่นๆ เกษตรกรจะนำผักขะแยงมาใช้ในการไล่แมลง เนื่องจากผักขะแยงเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน
ผักอีตู่



อีตู่ หรือ ใบแมงลัก เป็นพืชล้มลุก ลักษณะของต้นจะเป็นพุ่มเตี้ยคล้ายกับกะเพราแตกต่างกันที่กลิ่น และจะมีสีใบที่อ่อนกว่า มีลำต้นสูงประมาณ 30-80 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมทุกส่วน จะออกดอกที่ปลายยอด อาจเป็นช่อเดี่ยวหรือแตกออกเป็นช่อย่อยๆ ดอกจะบานจากล่างไปบน ส่วนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็คือ เมล็ดและใบ ซึ่งใบนั้นเรานิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร เช่น แกงเลียง แกงอ่อม หมกหน่อไม้ แกงหน่อไม้ เป็นต้น หรืดนำมาทานเป็นผักเคียงกับขนมจีนก็ได้เช่นกัน ส่วนเมล็ดนั้นนำมาใช้ทำเป็นขนมหรือของว่างอื่นๆ เช่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง น้ำใบเตย เมล็ดนั้นสามารถใช้เป็นยาลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยการนำมาแช่น้ำร้อนให้พองแล้วดื่มกินจะช่วยให้อิ่มได้นานเลยทีเดียวและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเพราะช่วยทำให้การดูดซึมของน้ำตาลลดลง
ผักก้านจอง



ผักก้านจอง หรือผักพาย เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นเองตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเกษตรกรบางรายหันมาปลูกเพื่อเป็นอาชีพเสริมว่ากันว่าสามารถสร้างรายได้มากกว่าการทำนาเลยทีเดียวที่สำคัญยังง่ายต่อการดูแลรักษา แถมยังมีอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตนานหลายปี เป็นไม้น้ำพบบริเวณนาข้าวและบริเวณที่มีน้ำขังทั่วไป ลำต้นจะเป็นเหง้าฝังจมอยู่ในโคลน ขยายพันธุ์โดยการเเตกหน่อแล้วเลื้อยออกจากต้นเดิมเพื่อไปสร้างต้นใหม่ ก้านใบยาวเป็นเหลี่ยมอวบใหญ่ ใบมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ ดอกสีเหลืองออกเป็นกระจุกที่ปลายก้านช่อ นิยมทานก้านดอกอ่อนและก้านใบอ่อน ใช้เป็นผักเคียงทานคู่กับน้ำพริกหรือส้มตำเข้ากันดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสรรพคุณในการช่วยเจริญอาหาร รสชาติหวานมันกรอบ อร่อย
ผักติ้ว



ผักติ้วเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เจริญเติบโตได้ดีในป่าเบจพรรณ สามารถทนแล้งได้ดี ผักติ้วเป็นผักที่สามารถทานได้ทั้งใบและดอก ดอกของต้นผักติ้วจะบานเต็มต้นสีขาวนวลสวยงามและมีกลิ่นหอม ยอดอ่อนจะมีสีแดงใช้ใส่ในแกงเพิ่มรสเปรี้ยวได้ ประโยชน์จากผักติ้วใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู แกงดอกผักติ้วไข่มดแดง แกงปลาใส่ไข่มดแดง แกงเห็ดต่างๆ ต้มปลา คนอีสานนิยมกินผักติ้วคู่กับ น้ำพริก ลาบ ก้อย หรือเอาดอกไปทำซุปผักติ้ว ผักติ้วมีรสเปรี้ยว ปนฝาด สรรพคุณทางยาของติ้วขาว ช่วยบำรุงโลหิต ฟอกโลหิต แก้ประดง ช่วยขับลม
ผักเม็ก



ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นสีแดงเปลือกต้นบาง แตกกิ่งก้านมากใบอ่อนสีน้ำตาล-ชมพู ใบแก่สีเขียวเข้ม ใบเรียบเรียวปลายใบแหลม รสฝาดอมเปรี้ยว ดอกเป็นดอกช่อเล็กๆ สีเหลืองอ่อน ออกที่ปลายยอดเกสรสีเหลืองอ่อน ผลทรงกลมสีขาวขนาดเล็ก ก้นผลนูนออกมาและบุ๋มคล้ายลูกหว้า ผลแก่รสชาติหวานฝาดๆส่วนที่เราใช้บริโภคคือ ยอดอ่อน ใบอ่อน ผักเม็กมีเอกลักษณ์ลักษณะเด่นเฉพาะตัว รสชาติ กลิ่น ที่แปลกสำหรับคนที่ไม่เคยลอง คนอีสานนิยมนำมาทานสดเป็นผักเคียงกับ ลาบ ก้อย หรือ นำมาทำซุปผักเม็กก็อร่อยเช่นกัน เป็นยาขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบ ขับลมได้เป็นอย่างดี
ผักแว่น



เป็นล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่ชอบขึ้นตามที่ลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเฟิร์นน้ำชนิดหนึ่ง ที่มีใบสี่แฉก ลักษณะเป็นเถาว์เลื้อย ออกที่ซอกใบ ขนาดเล็ก 2–3 ดอก กลีบดอกสีม่วง นิยมทานเป็นผักสดคู่กับน้ำพริก รสชาติจืดและมีกลิ่นเฉพาะตัว สพรรคุณทางยาช่วยสมานแผล เร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ลดการอักเสบ
ผักอีฮีน



จัดเป็นวัชพืชน้ำ พบทั่วไปในบริเวณที่มีน้ำขัง หนอง คลอง บึง เป็นไม้น้ำจำพวกผักตบขนาดเล็ก ใบเรีบบเรียวยาวรูปใบโพธิ์ สีเขียวเข้มเป็นมันวาว เกิดตามที่มีน้ำขังหรือเป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบกอายุฤดูเดียว ชอบขึ้นในที่น้ำท่วมขังตื้นๆ เช่น ในนาข้าว ดอกออกเป็นช่อตั้งตรงสีม่วง มีเมล็ดมาก ดอกอ่อนและก้านใบสามารถรับประทานได้ จะออกในช่วงหน้าฝนใช้รับประทานเป็นผักสด นิยมรับประทานทั้งต้น มักเก็บช่วง 2–3 อาทิตย์แรกเท่านั้น หลังจากนั้นต้นจะแก่และมีรสขม คนอีสานนิยมทานเป็นผักสดกับน้ำพริก ส้มตำ ใบของผักอีฮีน นำมาคั้นน้ำรับประทาน แก้ไอ ขับปัสสาวะ ตำพอกฝี หรือรับประทานใบสดมีรสจืด เย็น เหมาะรับประทานเพื่อลดความร้อนในร่างกาย
ใบบักกอกป่า



มะกอกป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ นิยมนำมาใส่ในส้มตำ ก้อย น้ำพริก และใช้ประกอบอาหารอื่นๆ ที่ต้องการรสเปรี้ยว โดยจะมีรสเปรี้ยว ฝาดและหวานเล็กน้อย ยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักได้ โดยใช้รับประทานทั้งสุกและดิบร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้มตำ น้ำตก ใบมะกอกอ่อนจะเรียบเป็นมันวาว ปลายใบแหลม ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบมะกอก มีรสฝาดเปรี้ยว ผลมะกอกมีรสเปรี้ยวนำอมหวานเล็กน้อย สามารถทานแก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยทำให้ชุ่มคอ รักษาอาการปวดท้อง รักษาอาการท้องเสีย
ผักหนอก หรือ บัวบก



เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงไม่ยากเลยที่เราจะสามารถนำมาปลูกไว้กินเองได้ แถมยังดูแลง่ายอีกต่างหาก นิยมทานเป็นผักสดคู่กับ ป่น ลาบ แจ่ว น้ำพริกต่างๆ เป็นผักที่มีกลิ่นเฉพาะตัวและมีคุณค่าทางยาสูง นำมาต้มกินแก้ฟกช้ำ ลดอาการอักเสบได้ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยผ่อนคลายทำให้ความจำและสมองทำงานได้ดี ผักหนอกหรือใบบัวบกยังมีสรรพคุณทางยาอื่นอีกเช่น แก้โรคผิวหนัง ท้องอืด ท้องเสีย ลมชัก
ผักเสี้ยน



ผักพื้นบ้านที่ขึ้นเองตามธรรมชาติหรือเราสามารถปลูกไว้ทานเองได้เช่นกัน ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด นิยมนำมาดองเค็มหรือดองเปรี้ยวเรียกว่า
“ส้มผักเสี้ยน” ทานคู่กับน้ำพริกต่างๆ ผักเสี้ยนดอง เนื่องผักเสี้ยนเป็นผักที่มีเบต้า – แคโรทีนสูงและมีกลิ่นเฉพาะตัวจึงต้องนำมาผ่านการดองก่อนการรับประทานเท่านั้น เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดสารอาหาร เช่น การขาดวิตามินเอ หรือเป็นโรคโลหิตจาง มีปัญหาเรื่องระบบลำไส้ เพราะนอกจากจะมีเส้นใยอาหารสูงแล้ว ยังสามารถช่วยขจัดสิ่งตกค้างที่อยู่ในลำไส้ได้อีกด้วย
ผักอีเลิด



ผักอีเลิด หรือใบชะพลู เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ใบสีเขียวเข้มปลายแหลมรูปหัวใจ มีเบต้าแคโรทีนสูงมาก ช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตา ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการขับเสมหะ คนอีสานนิยมนำใส่ในแกงอ่อมต่างๆ รวมทั้งยังสามารถทานเป็นผักสดคู่กับลาบ ก้อย และแจ่วฮ้อนได้อีกด้วย หรือนำมาทำ แกงคั่วหอยขมใบชะพลู เมี่ยงคำ หรือทานเป็นผักสดกับยำแหนมก็อร่อยไม่แพ้กัน ใบชะพลูไม่ใช่ใบพลูกินหมากแต่อย่างใดว่าแต่ทำไมชื่อถึงคล้ายๆกันเนื่องจากกลิ่นของเขาที่คล้ายกันนั่นเองจึงได้ชื่อที่คล้ายกันด้วย
ผักกระโดนบ้าน



ถ้าพูดถึงแดนดินถิ่นอีสาน “ผักกระโดน” ทุกคนจะต้องร้อง อ๋อกันเลยทีเดียว กระโดนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเรียบเรียวยาว ขอบใบหยิก ปลายแหลม ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็วจึงเป็นผักที่สามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากในช่วงฤดูฝน ออกเป็นดอกช่อยาวห้อยลงที่ปลายกิ่ง สีแดงช่อดอกอาจยาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ พบตามริมฝั่งแม่น้ำลำคลองหนองบึง หรือที่ลุ่มน้ำท่วม นิยมทานยอดอ่อน ดอก เป็นผักสดเคียงคู่กับ ลาบ ก้อย น้ำพริกต่างๆ มีรสฝาดๆมันๆ ใช้กินแก้ท้องร่วง ชะล้างบาดแผล สมานแผลเรื้อรัง ราก ใช้เป็นยาระบาย ผล เป็นแก้หวัด เมล็ด เป็นยาร้อน แก้ลม แน่นหน้าอก
ผักกะเดา



ผักกะเดา หรือสะเดา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบเรียบเรียวปลายแหลม เป็นพืชที่มีประโยชน์แทบจะทุกส่วนของลำต้นเลยก็ว่าได้ ราก เปลือก เมล็ด ใบแก่ นำมาหมักเป็นสมุนไพรกำจัดแมลง ยอดอ่อนและดอกนำลวกหรือทานเป็นผักสด( มีการพัฒนาสายพันธุ์เป็นสะเดาจืดที่สามารถทานสดได้) ทานคู่กับ ลาบ ก้อย น้ำพริกต่างๆ หรือนำมาทำสะเดาน้ำปลาหวานก็อร่อยไม้แพ้กัน สะเดายังช่วยลดน้ำตาลในเลือด และใช้ประโยชน์ทางยาได้มากมาย เช่น บรรเทาความร้อนในร่างกาย ช่วยปรับธาตุให้สมดุล ช่วยทำให้เจริญอาหาร
ผักพายน้อย



ผักพายน้อย หรือ ผักกะบ่วงเป็นพืชล้มลุกประเภทไม้น้ำที่ชอบขึ้นตามที่ลุ่มหรือพื้นที่ชุ่มน้ำ ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อหรือการเพาะเมล็ด รสชาติออกหวานมันและขมเล็กน้อย สามารถทานได้ทั้งลำต้น นิยมทานเป็นผักสดคู่กับ ลาบ ก้อย และน้ำพริกต่างๆ มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ไข้หัวลม( ไข้เปลี่ยนฤดู)
มะระขี้นก



เป็นพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นเถาว์ยาว กลิ่นฉุน นิยมทานยอดอ่อนแล้วผล รสขม( หวานเป็นลม ขมเป็นยา) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และยังเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยม ช่วยชะลอความแก่ชราได้ รักษาโรคหอบหืด โรคเบาหวาน สามารถลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยในการฟอกเลือด บรรเทาอาการปวดศีรษะ แก้อาการไอ ลดเสมหะ ช่วยในการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยขับพยาธิ แก้อาการจุดเสียด แน่นท้อง รักษาโรคริดสีดวงทวาร บำรุงน้ำดี บำรุงสายตา อีสานนิยมนำใบมะระขี้นกใส่ลงไปในแกงเห็ดเพื่อทำให้แกงมีรสขมนิด ๆ หรือแกงอ่อมช่วยเพิ่มความกลมกล่อมมากขึ้น และนำยอดมะระมาลวกเป็นผักจิ้มกับน้ำพริกหรือปลาป่นก็ได้เช่นกัน
ผักลิ้นปี่



เป็นผักที่พบได้ตามธรรมชาติทั่วไป เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรงสูงเพียง 10-45 เซนติเมตรเท่านั้น ปลายใบแหลมเรียว โคนใบกว้างรูปไข่ ขอบใบหยักเว้า หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีม่วงแดง ดอกออกเป็นช่อกลางลำต้น ช่อหนึ่งแยกเป็น 2 แขนง ดอกสีแดง ขนาดเล็ก ผลมีเปลือกแข็ง เป็นวัชพืชที่มีศักยภาพไม่แพ้ฟ้าทะลายโจร เป็นยาแก้เจ็บคอ แก้หลอดลมอักเสบ แก้ท้องเสีย เหมาะที่จะส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์ เพื่อดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นพืชที่ปลูกและดูแลได้ง่าย คนอีสานนิยมทานยอดอ่อนกับส้มตำอร่อยอย่าบอกใครเชียว
และนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผักที่อยู่คู่กับชาวอีสานมาอย่างช้านาน หากจะต้องพูดถึงผักทั้งหมดที่มีในดินแดนอีสานอาจจะต้องใช้เวลาเป็นวันๆเลยทีเดียว แถวบ้านเจ้าเอิ้นผักหยังอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์กันนะครับ ถ้ารู้แล้วว่าผักแต่ละอย่างมีประโยชน์อย่างไร อย่าลืมหันมาทานผักกันเยอะๆนะครับ ไว้โอกาสหน้าอีสานเดลี่จะนำสาระดีๆมาฝากกันอีกนะครับ