หากจะเอ่ยถึงมะเขือ ที่มีมายมากหลากหลายสายพันธุ์ ในประเทศไทย คงต้องใช้เวลาในการอธิบายเป็นวันๆเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น มะเขือขื่น มะเขือเทศ มะเขือพวง มะเขือยาว และแต่ละชนิดก็จะมีการพัฒนาสายพันธุ์จนกลายออกมาเป็นอีกหลายสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน วันนี้อีสานเดลี่จึงนำเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับการ ปลูกมะเขือเปราะอย่างง่าย ได้ผลผลิตดี เก็บเกี่ยวได้หลายปี มาฝากกัน มะเขือเปราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนโรคและแมลงหากได้รับการดูแลดีๆ สามารถเก็บเกี่ยวได้2-3 ปีต่อการปลูก1 ครั้งเลยทีเดียว เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะก็ไม่ได้ยากเลย
” ปลูกมะเขือเปราะอย่างง่าย ได้ผลผลิตดี เก็บเกี่ยวได้หลายปี”
เนื่องจากมะเขือเปราะเป็นพืชที่มีอายุยืนยาวจึงสามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด และยังสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย ด้วยลักษณะเด่นประจำพันธุ์ คือ ผลดกโดยเฉลี่ยประมาณ 21 ผล/ต้น รสหวาน กรอบอร่อย ผลเป็นสีเขียวสลับขาว
การเพาะกล้าปลูกมะเขือเปราะอย่างง่าย ได้ผลผลิตดี เก็บเกี่ยวได้หลายปี
การเพาะเมล็ดนั้นทำได้ 2 วิธีคือการเพาะจากถาดเพาะและการเพาะจากแปลงโดยตรงแล้วย้ายปลูกอีกทีหนึ่ง เนื่องจากมะเขือเป็นพืชที่ขึ้นง่ายโดยการเพาะเมล็ด การเตรียมแปลงเพาะกล้าก็ไม่ยุ่งยากเช่นเดียวกัน โดยขุดหรือไถดินให้ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร จากนั้นตากดินทิ้งไว้สักประมาณ 7-10 วัน แล้วใส่ปุ๋ยคอกลงไปคลุกเคล้าในดินเพื่อให้ดินร่วนซุย เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วก็สามารถหว่าน เมล็ดพันธุ์มะเขือลงไปได้เลย หว่านให้ทั่วๆแปลง จากนั้นหว่านปุ๋ยคอกบางๆ ทับลงอีกทีเพื่อเป็นการกลบหน้าดิน คลุมทับด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ เพื่อเก็บความชื้นในดิน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกออกมาจนเริ่มเห็นใบจริงแล้ว จึงทำการถอนต้นที่อ่อนแอออกไป เพื่อให้ต้นกล้าในแปลงไม่แน่นเบียดเสียดกันจนเกินไป จากนั้นเราก็ทำการเตรียมแปลงปลูกได้เลย
การเตรียมแปลง ปลูกมะเขือเปราะอย่างง่าย
การปลูกในแปลงควรเตรียมดินปลูกก่อน โดยการใช้จอบขุดย่อยหน้าดินลึก 15 – 20 เซนติเมตรและกำจัดวัชพืชออกให้หมด ใช้คราดตีดินให้ละเอียดแล้วคราดให้หน้าดินเสมอกัน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป
ปลูกมะเขือเปราะอย่างง่าย ได้ผลผลิตดี เก็บเกี่ยวได้หลายปี
- การย้ายต้นกล้าของมะเขือเปราะที่เราทำการเพาะไว้ โดยใช้การขุดเพื่อป้องกันรากเสียหาย และต้นกล้าจะต้องมีใบจริงแล้ว 3 – 4 ใบ จึงจะสามารถนำมาปลูกได้ หรือมีความสูงของต้น 7 – 10 เซนติเมตร
- การปลูกนั้นสามารถขุดหลุมปลูกได้เช่นกัน โดยขุดหลุมลึกประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร หรือการยกร่องปลูกก็ได้เช่นกัน โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5 เมตร เราสามารถใช้ฟางหรือหญ้าแห้งกลบโคนต้นได้เพื่อเก็บความชุ่มชื้นในดิน และคุมวัชพืชที่จะขึ้นตามมาด้วย การปลูกนั้นแนะนำให้ปลูกช่วงเย็นที่แดดเริ่มอ่อนแล้ว เพื่อลดการโดนแสงแดดจัดในช่วงบ่ายของวัน หรือหากจำเป็นต้องปลูกในตอนเช้าจริงๆ ควรกางแสลนกันแสงแดดในช่วงบ่ายของวันด้วย เนื่องจากต้นกล้านั้นยังอ่อนอยู่ ประมาณ 2-3 วันต้นกล้าก็จะเริ่มตั้งตัวได้แล้ว
- จากนั้นรดน้ำทุกวันเช้า และต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มติดดอกออกผล
- หลังจากการปลูกแล้วประมาณ 7 – 10 วัน เราก็เริ่มให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15 – 15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชา โดยโรยไว้ให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 2-3 เซนติเมตร และรดน้ำให้ชุ่ม
- ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกๆ 15 วัน พร้อมกับการกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆบริเวณโคนไปด้วย
- ประมาณ 25-30 วัน มะเขือจะเริ่มออกดอก จากนั้นทำการใส่ปุ๋ยคอกรอบโคนต้นแล้วเราจะรด *น้ำยาเร่งดอก อาทิตย์ละครั้งเพื่อให้ได้ดอกเยอะ ติดผลดก จากนั้นอีกประมาณ 15- 20 วัน มะเขือเปราะจเริ่มทยอยให้ผลผลิตกันแล้ว
- หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 2 เดือน เราก็จะทำการแต่งกิ่งต้นมะเขือ ด้วยการตัดกิ่งที่เคยให้ผลแล้วออกไป เพื่อบังคับให้แตกกิ่งใหม่ออกมา จากนั้นให้ปุ๋ยบำรุงต้น การแต่งกิ่งจะต้องทำไปเรื่อยๆทุกๆ 2-3 เดือน
โดยทั่วไปแล้วโรคและแมลงของมะเขือก็จะมีอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก การแก้ปัญหาโรคและแมลงของมะเขือจะใช้การฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้และการเด็ดเสียทิ้งไป อีกทั้งเรายังสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในครั้งต่อไปได้อีกด้วย โดยการเก็บผลแก่ไว้ให้เหลืองคาต้น จากนั้นเด็ดออกมาทิ้งไว้ในร่ม 2-3 วัน แล้วทำการแกะเอาเมล็ดออกมาล้างน้ำ เลือกเฉพาะเอาเมล็ดที่จมน้ำเท่านั้น ผึ่งหมาดก่อนแล้วนำมาตากแดดให้แห้ง แล้วเก็บไว้สำหรับการปลูกในครั้งต่อไป เมล็ดพันธุ์สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปีเลยทีเดียว
การปลูกมะเขือนั้นไม่ได้ยุ่งยากเลยหากแต่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ทั้งยังเป็นการฝึกความอดทนในการเฝ้ารอวันผลิดอกออกผล และใช้ต้นทุนต่ำแถมยังให้ผลผลิตสูง และการเก็บเกี่ยวที่ยาวนานสำหรับการปลูกหนึ่งครั้งคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
*น้ำยาเร่งดอก
ปุ๋ยคอกสำหรับโรยรอบลำต้น
ผงชูรส 1 ช้อนชา
ฮอร์โมนไข่ 1 ช้อนชา
เครื่องดื่มชูกำลัง ½ ช้อนชา
เกลือ ½ ช้อนชา
สำหรับน้ำ 4 ลิตร