ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ยารักษาโรคคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์จะต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ในการดำรงชีพ แล้วกระบวนการประดิษฐ์คิดค้นยารักษาโรคนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยวัตถุดิบที่มาจาก ธรรมชาติแทบทั้งสิ้น เป็นการนำมาปรับใช้ให้ทันกับยุคสมัยนั่นเอง ซึ่งพืชมากมายหลากหลายชนิดเหล่านี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีพืชมากมายหลากลหลายชนิดที่คนในสมัยก่อนนำมาปรุงเป็นยารักษาโรค  และยังมีการใช้กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เช่นเดียวกันกับกระชายพืชสมุนไพรที่รู้จักในด้านคุณสมบัติทางยา เหง้าอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพ และยาแก้ปวด มีการใช้ในยาแผนโบราณเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และอาการปวดข้อ วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จะมานำเสนอวิธีการ ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม ว่าเขาทำกันอย่างไร

“ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม นั้นง่ายนิดเดียว”

กระชายพืชสมุนไพรที่มากมายด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัว นอกจากจะสามารถนำไปทำอาหารเพิ่มรสชาติแล้ว เปรียบเสมือนเครื่องเทศช่วยในการแต่งกลิ่นเพิ่มรสชาติใน ขนมจีน แกงอ่อม และผัดฉ่าจะขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลย ยังมีสรรพคุณมากมายที่หลายคนยังไม่รู้จัก กระชายเป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายสามารถขึ้นได้ดีกับดินเกือบทุกชนิด แต่หากปลูกในดินร่วนปนทรายจะได้หัวใหญ่กว่าดินชนิดอื่นๆ เพราะฉะนั้นการปลูกพืชชนิดนี้ติดบ้านไว้นับได้ว่ามีคุณประโยชน์อนันต์  เนื่องจากการดูแลที่ไม่ยุ่งซับซ้อนและยังใช้พื้นที่น้อย พื้นที่ปลูกกระชายควรเป็นที่ที่สามารถระบายได้ดี เพราะกระชายจะไม่ชอบดินที่ชุ่มน้ำมากหรือน้ำท่วมขัง ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกกระชายจะเป็นช่วงต้นฤดูฝน คือช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและประหยัดน้ำด้วย และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมกราคม หรือหลังจากการปลูกได้ประมาณ 7-8 เดือนโดยประมาณ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

 ขั้นตอนการ ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม จากการปลูก ดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว

อันดับแรกควรไถพรวนดินตอนต้นฤดูฝน และยกร่องปลูกโดยมีระยะห่างระหว่างแถว 75 ซม. ระหว่างต้น 30 ซม.หากเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องยกร่องก็ได้ โดยธรรมชาติของกระชายจะชอบอากาศร้อนชื้น เหมาะกับอากาศบ้านเรา ชอบแดดจัดจึงสามารถปลูกในที่กลางแจ้งได้เลย

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ต่อมาคือการเลือกเหง้าพันธุ์กระชาย คัดเลือกเหง้าพันธุ์ที่มีอายุอย่างน้อย 7-9 เดือน เป็นอายุที่เหมาะสมในการนำมาทำเป็นเหง้าพันธุ์ 

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ส่วนการปลูกกระชายสามารถปลูกได้จากการปักชำไม่ว่าจะจากเหง้าหัวหรือต้นตอ หากใช้เหง้าปลูก ให้เลือกหัวที่มีน้ำหนักระหว่าง 15 ถึง 50 กรัมต่อหัว ส่วนเหง้าพันธุ์ให้ใช้ปล้องยาว 8-12 ซม. หนัก 15-30 กรัม ต่อ 7-9 ปล้อง

การปลูกกระชาย สิ่งสำคัญก็คือต้องเว้นระยะห่างระหว่างต้นและแถวให้ห่างกันประมาณ 30×30 เซนติเมตร เพื่อให้กระชายมีที่ว่างเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตและได้หัวที่สมบูรณ์ จากนั้นขุดหลุมขนาด 15x15x15 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่ก้นหลุมประมาณ 200 กรัม ต่อหลุม ปุ๋ยคอกจะช่วยให้กระชายเติบโตและแข็งแรงดี การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักนั้นเป็นการให้ปุ๋ยต้นพืชในระยะยาว แถมต้นพืชนั้นจะสามารถใช้ประโยชน์จากปุ๋ยเหล่านี้ได้ยาวนานกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

จากนั้นปลูกเหง้าหัวหรือต้นตอที่เตรียมไว้ แล้วกลบด้วยดินหนาประมาณ 5 เซนติเมตร กลบด้วยหญ้าหรือฟางข้าวเพื่อช่วยปกป้องรากและช่วยรักษาความชื้นในดิน เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชได้อีกด้วย โดยคลุมแปลงด้วยฟางหรือหญ้า 2 นิ้ว แล้วทำการรดน้ำให้ชุ่ม เพราะกระชายต้องการความชื้นที่สม่ำเสมอเพื่อการเจริญเติบโต

 

เมื่อกระชายเริ่มงอก สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เกษตรกรจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือการ กำจัดวัชพืชที่งอกขึ้นมาแย่งอาหารต้นกระชายหรือมาเบียดบังการเจริญเติบโต ทำให้กระชายโตช้า ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าต้นกระชายจะโตจนแข็งแรง หรือความสูงของต้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร ต้นกระชายจะแข็งแรงพอที่จะต้านทานการเจริญเติบโตของวัชพืชส่วนใหญ่ได้

การเก็บเกี่ยวกระชายเริ่มทำได้เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป หัวกระชายจะเริ่มแก่เต็มที่ เราจะได้หัวกระชายที่มีคุณภาพสูง กลิ่นหัว หัวดกใหญ่เต็มที่ เกษตรกรจะต้องเข้าใจในหลักการเจริญเติบโตของกระชาย โดยพืชกินหัวส่วนใหญ่ หากเราไม่ได้ทำการขุดหัวขึ้นไปบริโภค เมื่อครบอายุไขของมัน หัวก็จะย่อยสลายไปเอง เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องขุด หากไม่ขุดเราอาจจะต้องรอรอบหน้าอีก 6-8 เดือนเลย แค่เราทำขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเท่านี้การปลูกกระชายก็ไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไป แค่นี้เราก็มีกระชายติดบ้าน ติดสวนไว้ทำกับข้าวได้แล้วหละครับ

 

Tags: กระชาย, กระชายขาว, กระชายดำ, ขนมจีน, ข้าวปุ้น, ธรรมชาติ, ธรรมชาติบ้านเรา, ธรรมชาติรังสรรค์, น้ำยาขนมจีน, ประโยชน์มากมาย, ออนซอนอีสาน, อาหารการกิน, อาหารบ้านเฮา, อาหารพื้นบ้าน, อาหารอีสาน, อิสาน, อีสาน, อีสานใต้, เพื่อสุขภาพ, ได้ประโยชน์
ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ยารักษาโรคคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์จะต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ในการดำรงชีพ แล้วกระบวนการประดิษฐ์คิดค้นยารักษาโรคนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยวัตถุดิบที่มาจาก ธรรมชาติแทบทั้งสิ้น เป็นการนำมาปรับใช้ให้ทันกับยุคสมัยนั่นเอง ซึ่งพืชมากมายหลากหลายชนิดเหล่านี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีพืชมากมายหลากลหลายชนิดที่คนในสมัยก่อนนำมาปรุงเป็นยารักษาโรค  และยังมีการใช้กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เช่นเดียวกันกับกระชายพืชสมุนไพรที่รู้จักในด้านคุณสมบัติทางยา เหง้าอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพ และยาแก้ปวด มีการใช้ในยาแผนโบราณเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และอาการปวดข้อ วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จะมานำเสนอวิธีการ ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม ว่าเขาทำกันอย่างไร

“ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม นั้นง่ายนิดเดียว”

กระชายพืชสมุนไพรที่มากมายด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัว นอกจากจะสามารถนำไปทำอาหารเพิ่มรสชาติแล้ว เปรียบเสมือนเครื่องเทศช่วยในการแต่งกลิ่นเพิ่มรสชาติใน ขนมจีน แกงอ่อม และผัดฉ่าจะขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลย ยังมีสรรพคุณมากมายที่หลายคนยังไม่รู้จัก กระชายเป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายสามารถขึ้นได้ดีกับดินเกือบทุกชนิด แต่หากปลูกในดินร่วนปนทรายจะได้หัวใหญ่กว่าดินชนิดอื่นๆ เพราะฉะนั้นการปลูกพืชชนิดนี้ติดบ้านไว้นับได้ว่ามีคุณประโยชน์อนันต์  เนื่องจากการดูแลที่ไม่ยุ่งซับซ้อนและยังใช้พื้นที่น้อย พื้นที่ปลูกกระชายควรเป็นที่ที่สามารถระบายได้ดี เพราะกระชายจะไม่ชอบดินที่ชุ่มน้ำมากหรือน้ำท่วมขัง ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกกระชายจะเป็นช่วงต้นฤดูฝน คือช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและประหยัดน้ำด้วย และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมกราคม หรือหลังจากการปลูกได้ประมาณ 7-8 เดือนโดยประมาณ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

 ขั้นตอนการ ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม จากการปลูก ดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว

อันดับแรกควรไถพรวนดินตอนต้นฤดูฝน และยกร่องปลูกโดยมีระยะห่างระหว่างแถว 75 ซม. ระหว่างต้น 30 ซม.หากเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องยกร่องก็ได้ โดยธรรมชาติของกระชายจะชอบอากาศร้อนชื้น เหมาะกับอากาศบ้านเรา ชอบแดดจัดจึงสามารถปลูกในที่กลางแจ้งได้เลย

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ต่อมาคือการเลือกเหง้าพันธุ์กระชาย คัดเลือกเหง้าพันธุ์ที่มีอายุอย่างน้อย 7-9 เดือน เป็นอายุที่เหมาะสมในการนำมาทำเป็นเหง้าพันธุ์ 

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

ส่วนการปลูกกระชายสามารถปลูกได้จากการปักชำไม่ว่าจะจากเหง้าหัวหรือต้นตอ หากใช้เหง้าปลูก ให้เลือกหัวที่มีน้ำหนักระหว่าง 15 ถึง 50 กรัมต่อหัว ส่วนเหง้าพันธุ์ให้ใช้ปล้องยาว 8-12 ซม. หนัก 15-30 กรัม ต่อ 7-9 ปล้อง

การปลูกกระชาย สิ่งสำคัญก็คือต้องเว้นระยะห่างระหว่างต้นและแถวให้ห่างกันประมาณ 30×30 เซนติเมตร เพื่อให้กระชายมีที่ว่างเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตและได้หัวที่สมบูรณ์ จากนั้นขุดหลุมขนาด 15x15x15 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่ก้นหลุมประมาณ 200 กรัม ต่อหลุม ปุ๋ยคอกจะช่วยให้กระชายเติบโตและแข็งแรงดี การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักนั้นเป็นการให้ปุ๋ยต้นพืชในระยะยาว แถมต้นพืชนั้นจะสามารถใช้ประโยชน์จากปุ๋ยเหล่านี้ได้ยาวนานกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี

ปลูกกระชาย ให้ได้หัวใหญ่สวยงาม

จากนั้นปลูกเหง้าหัวหรือต้นตอที่เตรียมไว้ แล้วกลบด้วยดินหนาประมาณ 5 เซนติเมตร กลบด้วยหญ้าหรือฟางข้าวเพื่อช่วยปกป้องรากและช่วยรักษาความชื้นในดิน เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชได้อีกด้วย โดยคลุมแปลงด้วยฟางหรือหญ้า 2 นิ้ว แล้วทำการรดน้ำให้ชุ่ม เพราะกระชายต้องการความชื้นที่สม่ำเสมอเพื่อการเจริญเติบโต

 

เมื่อกระชายเริ่มงอก สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เกษตรกรจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือการ กำจัดวัชพืชที่งอกขึ้นมาแย่งอาหารต้นกระชายหรือมาเบียดบังการเจริญเติบโต ทำให้กระชายโตช้า ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าต้นกระชายจะโตจนแข็งแรง หรือความสูงของต้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร ต้นกระชายจะแข็งแรงพอที่จะต้านทานการเจริญเติบโตของวัชพืชส่วนใหญ่ได้

การเก็บเกี่ยวกระชายเริ่มทำได้เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป หัวกระชายจะเริ่มแก่เต็มที่ เราจะได้หัวกระชายที่มีคุณภาพสูง กลิ่นหัว หัวดกใหญ่เต็มที่ เกษตรกรจะต้องเข้าใจในหลักการเจริญเติบโตของกระชาย โดยพืชกินหัวส่วนใหญ่ หากเราไม่ได้ทำการขุดหัวขึ้นไปบริโภค เมื่อครบอายุไขของมัน หัวก็จะย่อยสลายไปเอง เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องขุด หากไม่ขุดเราอาจจะต้องรอรอบหน้าอีก 6-8 เดือนเลย แค่เราทำขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเท่านี้การปลูกกระชายก็ไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไป แค่นี้เราก็มีกระชายติดบ้าน ติดสวนไว้ทำกับข้าวได้แล้วหละครับ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tags: กระชาย, กระชายขาว, กระชายดำ, ขนมจีน, ข้าวปุ้น, ธรรมชาติ, ธรรมชาติบ้านเรา, ธรรมชาติรังสรรค์, น้ำยาขนมจีน, ประโยชน์มากมาย, ออนซอนอีสาน, อาหารการกิน, อาหารบ้านเฮา, อาหารพื้นบ้าน, อาหารอีสาน, อิสาน, อีสาน, อีสานใต้, เพื่อสุขภาพ, ได้ประโยชน์