การปลูก ฝรั่ง ให้ได้ผลผลิตดี

ผลไม้อีสานมีมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งฝรั่งหรือบักสีดาในภาษาอีสานเป็นอีกหนึ่งในผลไม้ท่ีหลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งเป็นผลไม้ท่ีสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี การปลูก ฝรั่ง  สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิดแต่จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีถ้าปลูกในดินร่วนซุย ที่มีอินทรีย์วัตถุมาก เนื่องจากเป็นดินที่มีการระบายน้ําได้ดี ทำให้ได้ผลผลิตดีตามมาอีกด้วย เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่สามารถทนได้ในสภาพอากาศที่มีความแห้งแล้งโดยเฉพาะภาคอีสาน เกษตรกรสามารถปลูกฝรั่งเพื่อเป็นอาชีพหลัก หรือ เป็นอาชีพเสริมได้ เหมาะสำหรับการปลูกในโครงการโคกหนองนา ที่สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรได้ตลอดทั้งปี หรือปลูกเพื่อเก็บผลมาบริโภคภายในครัวเรือนก็ได้เช่นกัน

“ฝรั่งผลไม้ให้วิตามินซีสูง เหมาะกับคนรักสุขภาพ”

วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จึงอยากนำเคล็ดลับดีในการปลูกฝรั่งมาฝากกัน อันดับแรกที่เราต้องคำนึงถึงในการปลูกฝรั่ง

  1. การคัดเลือกพันธุ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยใน การปลูก ฝรั่ง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก

ฝรั่งสามารถจัดแยกประเภทพันธุ์ออกได้เป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกันคือ

การปลูก ฝรั่ง

กลุ่มที่สามรถรับประทานสด คือฝรั่งท่ีมีผลใหญ่ กรอบ เนื้อเยอะ มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ได้แก่ พันธ์ุบางเสาธง พันธุ์หลวงท่องสื่อ ฝรั่งพันธ์ุอินเดีย ได้แก่ พันธ์ุอีแห้ว พันธ์ุอาลา ฮาบัด พันธุ์เวียดนาม ได้แก่ กลมสาลี่ ขาวเศวต แป้นสีทอง เป็นต้น

ฝรั่งขี้นก

– กลุ่มฝรั่งประดับ ส่วนใหญ่จะมีผลขนาดเล็กมาก มีทรงต้นเป็นพันธ์ุไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบมี ลักษณะเล็กและแคบอาจมีใบเป็นจีบ ดอกสีขาว ผลสีเขียวเข้ม

ฝรั่ง

– กลุ่มฝรั่งแปรรูป เป็นฝรั่งท่ีมีลักษณะเหมาะท่ีจะใช้ในการแปรรูปต่างๆ เช่น น้ําฝรั่ง โดยนิยม ใช้พันธุ์เบอมองท์ พันธ์ุคาฮัวลูคา โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดผลไม่ใหญ่มากนัก ที่สําคัญเน้ือมีสีชมพูมีกลิ่นหอม และฉ่ำน้ํามาก

  1. พื้นที่ที่เหมาะแก่ การปลูก ฝรั่ง 

เนื่องจากฝรั่งเป็นผลไม้ที่ปลูกง่ายและออกดอกผลได้ในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินปนทราย แต่ดินที่สามารถทำให้ฝรั่งได้ผลผลิตดีที่สุดคือดินร่วนปนทราย หรือ ดินตกตะกอนริมแม่น้ำ ลําคลอง เพราะจะช่วยในการระบายน้ำได้ดีเพราะต้นฝรั่งจะไม่ชอบน้ำขัง

การปลูก ฝรั่ง

แต่ไม่ได้หมายความว่าดินชนิดอื่นจะไม่สามารถให้ผลผลิตที่ดี เว้นแต่ว่าเกษตรกรจะต้องดูตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่นหากปลูกในดินเหนียวจำเป็นจะต้อง ยกร่อง เพื่อช่วยในการระบายน้ําได้สะดวก โดยการยกร่องไม่ควรต่ำกว่า 6 เมตร และท้องร่องควรกว้าง 1.5 เมตร

  1. การให้ปุ๋ย 

ปุ๋ยเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร ฉะนั้นการเพิ่มปุ๋ยมีความสําคัญต่อฝรั่งเป็นอย่างมาก หากไม่ใส่ปุ๋ยจะได้ผลน้อยลงเป็นลําดับ ปุ๋ยท่ีนิยม ได้แก่ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยมูลสัตว์ต่างๆ  โดยควรใส่ปุ๋ยตั้งแต่แรกปลูก จากน้ันควรใส่ให้สม่ำเสมอทุกๆ ปี อย่างน้อยปีละ 3 ครั้งหรือทุกๆ 4 เดือน

การใส่ปุ๋ย ฝรั่ง

หมายเหตุ ฝรั่งเป็นพืชท่ีชอบแสงแดดมาก แต่จะไม่ชอบลมพัดแรง ดังนั้นหากปลูกในท่ีโล่งควรมีต้นไม้ กําบังหรือ การใช้ไม้ปักผูกเชือกเพื่อป้องกันลมพัดกิ่งหัก 

  1. ขั้นตอนต่อไปคือ การปลูก ฝรั่ง

ฝรั่งเป็นต้นไม้ท่ีสามารถปลูกได้อย่างง่าย แต่ถ้าเกษตรกรต้องการให้ต้นฝรั่งนั้นโตเร็ว ต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน ควรมีการเตรียมหลุมปลูกให้พร้อม การเตรียมหลุมที่ใช้ปลูกฝรั่ง สามารถทำได้ดังต่อไปนี้นี้ 

– หลุมปลูกควรมีความกว้าง ยาว ลึก อย่างละ 1 เมตร โดยจะต้องแยกดินออกเป็นช้ันๆชั้นบนและช้ันล่างไว้ต่างหากคนละกอง จากนั้นนําเอา เศษใบไม้ หญ้าแห้ง ฟางข้าว มารองก้นหลุม แล้วกลบทับด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ รดน้ำให้ชุ่มปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อช่วยย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยหมักสำหรับต้นฝรั่งนั่นเอง แต่ถ้าหากขุดหลุมลึกแล้วมีน้ำซึมออกมาจากก้นหลุม นั่นหมายความว่าหลุมนั้นไม่สามารถปลูกฝรั่งได้เนื่องจากจะทำให้รากเน่าตายได้ 

การปลูก ฝรั่ง

ในส่วนของดินที่แยกไว้ ให้เอาดินชั้นบนที่ขุดแยกไว้ก่อนหน้ามาผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยมูลสัตว์ โดยใช้ส่วนผสมดิน 1 ส่วน ปุ๋ย 1 ส่วน คลุกเคล้าดินและปุ๋ยให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ตากเก็บไว้ ก็จะได้ดินในการปลูกฝรั่ง

การปลูก ฝรั่ง

การปลูกสําหรับในดินท่ีอุดมสมบูรณ์ดี ( คือดินร่วน ) ควรเว้นระยะห่างในการปลูกประมาณ 6×6 เมตร แต่ถ้าดินไม่อุดมสมบูรณ์ ( ดินทราย​ ) ควรเว้นระยะในการปลูก 5×5 เมตร การปลูกนั้นก็ไม่ได้ยากโดยนํากิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปลูกใส่ในหลุมที่เตรียมไว้แล้วกลบด้วยดินปลูกที่เรา เตรียมไว้ จากนั้นใช้ไม้หลักปักยึดกิ่งพันธุ์ไว้ไม่ให้โยกไปตามแรงลม เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับต้นฝรั่ง เมื่อปลูกเสร็จแล้วเรียบร้อย กลบด้านบนดินปลูกด้วยฟางข้าวอีกรอบเพื่อคลุมความชื้นหน้าดิน และกันวัชพืชเจริญเติบโตได้อีกทางด้วย ฝรั่งเป็นผลไม้ท่ีปลูกได้ง่าย โตเร็ว ถ้าเพาะจากเมล็ดจะเร่ิมให้ดอกออกผลในระยะ 1 ปี จะได้ผลเต็มท่ีเมื่อ มีอายุ 5-6 ปี แต่ถ้าปลูกจากกิ่งพันธุ์อาจจะใช้เวลาแค่ 4-6 เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิตได้แล้ว 

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ฝรั่งนั้นจะต้องเก็บเมื่อผลแก่จัด เพราะจะได้รสชาติเปรี้ยวหวาน ฉ่ำน้ำ โดยระยะเวลาต้ังแต่ดอกบานแล้วถึงผลแก่จัดประมาณ 5 เดือน เพื่อให้ได้ผลผลิตดีเกษตรกรจะต้องห่อลูกฝรั่งด้วยถุงพลาสติกเจาะรูคายน้ำก้นถุงเพื่อระบายน้ำ ในช่วงที่เกสรหลุดออกจากผลหมดแล้ว การห่อนั้นนอกจากจะสามารถป้องกันแมลงได้แล้ว ยังทำให้คงคุณภาพ ความสด กรอบ ฉ่ำน้ำ สีสวย อีกด้วย โดยฝรั่งสามารถจําหน่ายเป็นผลไม้สดในลักษณะเป็นกิโลกรัม สนราคาขึ้นอยู่กับกลไกของตลาดในแต่ละช่วง ราคาต่อกิโลกรัมประมาณ 30-80 บาท หรือสามารถนําไปแปรรูปเป็น น้ําฝรั่ง เยลลี่ฝรั่ง แยมฝรั่ง ฝรั่งแชบ๊วย เป็นต้น 

น้ำฝรั่ง

เห็นไหมหละว่าการปลูกฝรั่งนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด นอกจากการปลูกที่ไม่ยุ่งยากแล้ว ประโยชน์ก็มีมากมายอีกเช่นกัน ประโยชน์ของฝรั่ง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมากซึ่งช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยต่างๆได้ดี ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ปกป้องผิวหนังจากอนุมูลอิสระต่างๆ เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดไขมันในเลือด เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค

ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ป้องกันอาการผิดปกติของหัวใจได้

ใบฝรั่งใช้ในการดับกลิ่นปาก ด้วยการนำใบสด 3-5 ใบมาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง บรรเทาอาการปวดฟัน เหงือกบวม ผลอ่อนช่วยบำรุงเหงือกและฟัน โรคเลือดออกตามไรฟันได้ แก้อาการเลือดกำเดาไหล ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ป้องกันโรคลำไส้อักเสบ ช่วยล้างพิษโดยรวมในร่างกาย 

นี่คือประโยชน์ส่วนหนึ่งของการปลูกฝรั่ง ถ้าเราเห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้วเชื่อหลายคนคงหันมาปลูกและทานฝรั่งกันเป็นแน่ หรือจะทานเป็นฝรั่งจิ้มพริกเกลือใช้ล้างปากสำหรับมื้อหนักก็แซบได้เหมือนกันครับ

ฝากติดตามบทความดีๆของทีมงานอีสานเดลี่หรือหากมีข้อสงสัยสามารถแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกับเราได้ทางคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย

 

Tags: กรอบ, การปลูกผัก, ของอร่อย, ของแซบ, ประโยชน์มากมาย, ปลูกง่าย, ปลูกฝรั่ง, ฝรั่ง, ฝรั่งกรอบ, ฝรั่งกิมจู, ฝรั่งขี้นก, ฝรั่งสด, พริกเกลือ, พันธุ์ฝรั่ง, พืชเศรษฐกิจ, วิตามิน, วิตามินซี, หวาน, อร่อย, ออร์การนิค, อาชีพเสริม, อิสาน, อีสาน, แซบ

การปลูก ฝรั่ง ให้ได้ผลผลิตดี

ผลไม้อีสานมีมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งฝรั่งหรือบักสีดาในภาษาอีสานเป็นอีกหนึ่งในผลไม้ท่ีหลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งเป็นผลไม้ท่ีสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี การปลูก ฝรั่ง  สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิดแต่จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีถ้าปลูกในดินร่วนซุย ที่มีอินทรีย์วัตถุมาก เนื่องจากเป็นดินที่มีการระบายน้ําได้ดี ทำให้ได้ผลผลิตดีตามมาอีกด้วย เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่สามารถทนได้ในสภาพอากาศที่มีความแห้งแล้งโดยเฉพาะภาคอีสาน เกษตรกรสามารถปลูกฝรั่งเพื่อเป็นอาชีพหลัก หรือ เป็นอาชีพเสริมได้ เหมาะสำหรับการปลูกในโครงการโคกหนองนา ที่สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรได้ตลอดทั้งปี หรือปลูกเพื่อเก็บผลมาบริโภคภายในครัวเรือนก็ได้เช่นกัน

“ฝรั่งผลไม้ให้วิตามินซีสูง เหมาะกับคนรักสุขภาพ”

วันนี้ทีมงานอีสานเดลี่จึงอยากนำเคล็ดลับดีในการปลูกฝรั่งมาฝากกัน อันดับแรกที่เราต้องคำนึงถึงในการปลูกฝรั่ง

  1. การคัดเลือกพันธุ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยใน การปลูก ฝรั่ง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก

ฝรั่งสามารถจัดแยกประเภทพันธุ์ออกได้เป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกันคือ

การปลูก ฝรั่ง

กลุ่มที่สามรถรับประทานสด คือฝรั่งท่ีมีผลใหญ่ กรอบ เนื้อเยอะ มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ได้แก่ พันธ์ุบางเสาธง พันธุ์หลวงท่องสื่อ ฝรั่งพันธ์ุอินเดีย ได้แก่ พันธ์ุอีแห้ว พันธ์ุอาลา ฮาบัด พันธุ์เวียดนาม ได้แก่ กลมสาลี่ ขาวเศวต แป้นสีทอง เป็นต้น

ฝรั่งขี้นก

– กลุ่มฝรั่งประดับ ส่วนใหญ่จะมีผลขนาดเล็กมาก มีทรงต้นเป็นพันธ์ุไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบมี ลักษณะเล็กและแคบอาจมีใบเป็นจีบ ดอกสีขาว ผลสีเขียวเข้ม

ฝรั่ง

– กลุ่มฝรั่งแปรรูป เป็นฝรั่งท่ีมีลักษณะเหมาะท่ีจะใช้ในการแปรรูปต่างๆ เช่น น้ําฝรั่ง โดยนิยม ใช้พันธุ์เบอมองท์ พันธ์ุคาฮัวลูคา โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดผลไม่ใหญ่มากนัก ที่สําคัญเน้ือมีสีชมพูมีกลิ่นหอม และฉ่ำน้ํามาก

  1. พื้นที่ที่เหมาะแก่ การปลูก ฝรั่ง 

เนื่องจากฝรั่งเป็นผลไม้ที่ปลูกง่ายและออกดอกผลได้ในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินปนทราย แต่ดินที่สามารถทำให้ฝรั่งได้ผลผลิตดีที่สุดคือดินร่วนปนทราย หรือ ดินตกตะกอนริมแม่น้ำ ลําคลอง เพราะจะช่วยในการระบายน้ำได้ดีเพราะต้นฝรั่งจะไม่ชอบน้ำขัง

การปลูก ฝรั่ง

แต่ไม่ได้หมายความว่าดินชนิดอื่นจะไม่สามารถให้ผลผลิตที่ดี เว้นแต่ว่าเกษตรกรจะต้องดูตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่นหากปลูกในดินเหนียวจำเป็นจะต้อง ยกร่อง เพื่อช่วยในการระบายน้ําได้สะดวก โดยการยกร่องไม่ควรต่ำกว่า 6 เมตร และท้องร่องควรกว้าง 1.5 เมตร

  1. การให้ปุ๋ย 

ปุ๋ยเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร ฉะนั้นการเพิ่มปุ๋ยมีความสําคัญต่อฝรั่งเป็นอย่างมาก หากไม่ใส่ปุ๋ยจะได้ผลน้อยลงเป็นลําดับ ปุ๋ยท่ีนิยม ได้แก่ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยมูลสัตว์ต่างๆ  โดยควรใส่ปุ๋ยตั้งแต่แรกปลูก จากน้ันควรใส่ให้สม่ำเสมอทุกๆ ปี อย่างน้อยปีละ 3 ครั้งหรือทุกๆ 4 เดือน

การใส่ปุ๋ย ฝรั่ง

หมายเหตุ ฝรั่งเป็นพืชท่ีชอบแสงแดดมาก แต่จะไม่ชอบลมพัดแรง ดังนั้นหากปลูกในท่ีโล่งควรมีต้นไม้ กําบังหรือ การใช้ไม้ปักผูกเชือกเพื่อป้องกันลมพัดกิ่งหัก 

  1. ขั้นตอนต่อไปคือ การปลูก ฝรั่ง

ฝรั่งเป็นต้นไม้ท่ีสามารถปลูกได้อย่างง่าย แต่ถ้าเกษตรกรต้องการให้ต้นฝรั่งนั้นโตเร็ว ต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน ควรมีการเตรียมหลุมปลูกให้พร้อม การเตรียมหลุมที่ใช้ปลูกฝรั่ง สามารถทำได้ดังต่อไปนี้นี้ 

– หลุมปลูกควรมีความกว้าง ยาว ลึก อย่างละ 1 เมตร โดยจะต้องแยกดินออกเป็นช้ันๆชั้นบนและช้ันล่างไว้ต่างหากคนละกอง จากนั้นนําเอา เศษใบไม้ หญ้าแห้ง ฟางข้าว มารองก้นหลุม แล้วกลบทับด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ รดน้ำให้ชุ่มปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อช่วยย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยหมักสำหรับต้นฝรั่งนั่นเอง แต่ถ้าหากขุดหลุมลึกแล้วมีน้ำซึมออกมาจากก้นหลุม นั่นหมายความว่าหลุมนั้นไม่สามารถปลูกฝรั่งได้เนื่องจากจะทำให้รากเน่าตายได้ 

การปลูก ฝรั่ง

ในส่วนของดินที่แยกไว้ ให้เอาดินชั้นบนที่ขุดแยกไว้ก่อนหน้ามาผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยมูลสัตว์ โดยใช้ส่วนผสมดิน 1 ส่วน ปุ๋ย 1 ส่วน คลุกเคล้าดินและปุ๋ยให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ตากเก็บไว้ ก็จะได้ดินในการปลูกฝรั่ง

การปลูก ฝรั่ง

การปลูกสําหรับในดินท่ีอุดมสมบูรณ์ดี ( คือดินร่วน ) ควรเว้นระยะห่างในการปลูกประมาณ 6×6 เมตร แต่ถ้าดินไม่อุดมสมบูรณ์ ( ดินทราย​ ) ควรเว้นระยะในการปลูก 5×5 เมตร การปลูกนั้นก็ไม่ได้ยากโดยนํากิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปลูกใส่ในหลุมที่เตรียมไว้แล้วกลบด้วยดินปลูกที่เรา เตรียมไว้ จากนั้นใช้ไม้หลักปักยึดกิ่งพันธุ์ไว้ไม่ให้โยกไปตามแรงลม เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับต้นฝรั่ง เมื่อปลูกเสร็จแล้วเรียบร้อย กลบด้านบนดินปลูกด้วยฟางข้าวอีกรอบเพื่อคลุมความชื้นหน้าดิน และกันวัชพืชเจริญเติบโตได้อีกทางด้วย ฝรั่งเป็นผลไม้ท่ีปลูกได้ง่าย โตเร็ว ถ้าเพาะจากเมล็ดจะเร่ิมให้ดอกออกผลในระยะ 1 ปี จะได้ผลเต็มท่ีเมื่อ มีอายุ 5-6 ปี แต่ถ้าปลูกจากกิ่งพันธุ์อาจจะใช้เวลาแค่ 4-6 เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิตได้แล้ว 

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ฝรั่งนั้นจะต้องเก็บเมื่อผลแก่จัด เพราะจะได้รสชาติเปรี้ยวหวาน ฉ่ำน้ำ โดยระยะเวลาต้ังแต่ดอกบานแล้วถึงผลแก่จัดประมาณ 5 เดือน เพื่อให้ได้ผลผลิตดีเกษตรกรจะต้องห่อลูกฝรั่งด้วยถุงพลาสติกเจาะรูคายน้ำก้นถุงเพื่อระบายน้ำ ในช่วงที่เกสรหลุดออกจากผลหมดแล้ว การห่อนั้นนอกจากจะสามารถป้องกันแมลงได้แล้ว ยังทำให้คงคุณภาพ ความสด กรอบ ฉ่ำน้ำ สีสวย อีกด้วย โดยฝรั่งสามารถจําหน่ายเป็นผลไม้สดในลักษณะเป็นกิโลกรัม สนราคาขึ้นอยู่กับกลไกของตลาดในแต่ละช่วง ราคาต่อกิโลกรัมประมาณ 30-80 บาท หรือสามารถนําไปแปรรูปเป็น น้ําฝรั่ง เยลลี่ฝรั่ง แยมฝรั่ง ฝรั่งแชบ๊วย เป็นต้น 

น้ำฝรั่ง

เห็นไหมหละว่าการปลูกฝรั่งนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด นอกจากการปลูกที่ไม่ยุ่งยากแล้ว ประโยชน์ก็มีมากมายอีกเช่นกัน ประโยชน์ของฝรั่ง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมากซึ่งช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยต่างๆได้ดี ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ปกป้องผิวหนังจากอนุมูลอิสระต่างๆ เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดไขมันในเลือด เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค

ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ป้องกันอาการผิดปกติของหัวใจได้

ใบฝรั่งใช้ในการดับกลิ่นปาก ด้วยการนำใบสด 3-5 ใบมาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง บรรเทาอาการปวดฟัน เหงือกบวม ผลอ่อนช่วยบำรุงเหงือกและฟัน โรคเลือดออกตามไรฟันได้ แก้อาการเลือดกำเดาไหล ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ป้องกันโรคลำไส้อักเสบ ช่วยล้างพิษโดยรวมในร่างกาย 

นี่คือประโยชน์ส่วนหนึ่งของการปลูกฝรั่ง ถ้าเราเห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้วเชื่อหลายคนคงหันมาปลูกและทานฝรั่งกันเป็นแน่ หรือจะทานเป็นฝรั่งจิ้มพริกเกลือใช้ล้างปากสำหรับมื้อหนักก็แซบได้เหมือนกันครับ

ฝากติดตามบทความดีๆของทีมงานอีสานเดลี่หรือหากมีข้อสงสัยสามารถแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกับเราได้ทางคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tags: กรอบ, การปลูกผัก, ของอร่อย, ของแซบ, ประโยชน์มากมาย, ปลูกง่าย, ปลูกฝรั่ง, ฝรั่ง, ฝรั่งกรอบ, ฝรั่งกิมจู, ฝรั่งขี้นก, ฝรั่งสด, พริกเกลือ, พันธุ์ฝรั่ง, พืชเศรษฐกิจ, วิตามิน, วิตามินซี, หวาน, อร่อย, ออร์การนิค, อาชีพเสริม, อิสาน, อีสาน, แซบ