อาหารอีสานอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นอาจเป็นเพราะวัตถุดิบที่หาได้ และขั้นตอนกระบวนการทำที่ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงใช้วัตถุดิบแค่ไม่กี่ชนิดในการทำ ก็สามารถทำได้แล้ว อาหารชนิดนี้เกิดขึ้นจากการถนอมอาหารในช่วงหน้าฝน เนื่องจากในฤดูฝนนั้นเราสามารถหาปลาได้มากมาย คนอีสานจึงเกิดการคิดค้นหาวิธีเพื่อที่จะเก็บอาหารไว้ให้ได้นานขึ้นไปอีก นอกเหนือจากการทำปลาร้าแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีการถนอมอาหารเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างกันออกไปอีก นั่นก็คือ การทำปลาส้ม นั่นเอง ปลาส้มเป็นการถนอมอาหารวิธียังเพิ่มความหลากหลายในการรังสรรค์เมนูใหม่ๆให้กับคนอีสาน และยังสามารถเก็บอาหารไว้ได้นานกว่าปกติ ทําให้สามารถมีอาหารไว้บริโภคตลอดปี ปลาส้มมีรสชาติอร่อยเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป ด้วยชื่อ ปลาส้ม แน่นอนว่าอาหารชนิดนี้จะต้องมีรสเปรี้ยวนำ ซึ่งแตกต่างจากการทำปลาร้า แล้ว การทำ ปลาส้มตัว อีสาน นี้ใช้อะไรบ้าง
“ปลาส้มเมนูเพิ่มความหลากหลาย ทำได้ง่ายไม่มีกี่ขั้นตอน”
ปลาส้มในแต่ละท้องที่ในเขตภาคอีสาน จะมีวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไป แต่หลักๆในการทำแล้ววัตถุดิบที่ใช้จะเหมือนกัน แต่ขั้นตอนในการทำอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อย ปลาส้มทำได้ 2 วิธีหลักๆ ด้วยกันคือ การทำปลาส้มแบบทั้งตัว และการทำปลาส้มแบบเนื้อปลาสับ แต่วันนี้อีสานเดลี่จะพาแฟนเพจไปดูกันว่า การทำปลาส้มตัวนั้นจะต้องทำอย่างไร และจะต้องเตรียมอะไรบ้าง
ส่วนผสมที่เราจะต้องใช้ใน การทำ ปลาส้มตัว มีดังนี้
ปลาตะเพียน 1 กิโลกรัม
เกลือเกล็ด 30 กรัม
กระเทียม 1 ถ้วย
น้ำซาวข้าว 2 ถ้วย
ข้าวสวย 1 ถ้วย
วิธีทํา การทำ ปลาส้มตัว อีสาน
- นําปลาตะเพียนมาขอดเกล็ด ควักพุงและไส้ออก บ้ังตัวปลาวิธีการบั้งนี้จะต้องบั้งให้ถี่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องปลาตะเพียนเป็นปลาก้างเยอะ ก้างจะแทรกอยู่ในเนื้อปลาเยอะ จึงจำเป็นจะต้องพิถีพิถันนิดหนึ่งในขั้นตอนนี้
- เมื่อบั้งเรียบร้อยแล้วนําไปล้างน้ําเปล่า 1 น้ํา จากนั้นตามด้วยการล้างน้ำคาวปลาด้วยการใช้น้ําสารส้ม หรือใช้น้ำส้มสายชูแทนก็ได้ 1 น้ํา ตามด้วยการล้างน้ําเปล่าไปอีก 1 รอบ
- นําปลาไปแช่น้ําซาวข้าวทิ้งไว้10นาที ขั้นตอนนี้ทำเพื่อให้เน้ือปลาแข็งไม่เละ จากนั้นเมื่อแข่ได้ที่แล้วนําปลาที่แช่น้ำซาวข้าวแล้วใส่ตะกร้าเพื่อให้ปลาสะเด็ดน้ํา
- นําปลามาคลุกกับเกลือ แล้วนวดคลึงด้วยมือ หากปลาตัวใหญ่ก็ใช้สากกระเบือทุบตัวปลา เพื่อให้ เกลือซึมเข้าไปถึงข้างในเน้ือปลา พักไว้ก่อน
- จากนั้นใส่กระเทียมและข้าวสวยนวดคลึงให้เข้ากันในถ้วย เมื่อเข้ากันดีแล้ว นําปลาท่ีนวดกับเกลือแล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ
- นําปลาเรียงใส่ลงในโหลหรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมิดชิด อัดปลาให้แน่นเพื่อที่จะบรรจุตัวปลาให้ได้มากท่ีสุด ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 3-4 วันที่อุณหภูมิห้องยังไม่ต้องแช่ตู้เย็น
เพียงเท่านี้ก็ได้ปลาส้มตัวเก็บไว้ทานได้แล้ว หากอยากเก็บไว้ทานนานเมื่อปลาส้มเริ่มเปรี้ยวได้ที่แล้ว ให้เก็บไว้ในตู้เย็นทันที เนื่องจากอากาศบ้านเราร้อนมากจะทำให้ปลาส้มนั้นเปรี้ยวเร็ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจะต้องเก็บไว้ในตู้เย็น การทานปลาส้มนั้นคนอีสานจะทานได้ทั้งดิบและห่อใบตองย่างสุกก็จะได้กลิ่นอายความหอมของใบตอง ทานคู่กับพริกสด หรือลูกโดดเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทาน แค่นี้ก็แซบได้แล้วยิ่งได้ข้าวสวยร้อนๆ รับประกันความอร่อยเลยครับผม ไว้ไปลองทำทานกันดูนะครับ แค่เพียงวัตถุดิบไม่กี่อย่าง ทำง่ายไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น
ฝากติดตามบทความดีๆของทีมงานอีสานเดลี่หรือหากมีข้อสงสัยสามารถแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกับเราได้ทางคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย